Unit 4: ตัวเลข วัน และเวลา (Numbers, Days & Time)
เป้าหมายบทเรียน (Goals)
- นับเลขภาษาอังกฤษ 1-100 ได้
- บอกชื่อวันทั้ง 7 วันในสัปดาห์ได้
- ถามและบอกเวลาแบบง่ายๆ (เต็มชั่วโมง) ได้
- ใช้บุพบท "on" กับวันในสัปดาห์ได้อย่างถูกต้อง
คำศัพท์ (Vocabulary)
Numbers 1-20 (ตัวเลข 1-20):
- one (วัน) - หนึ่ง (number / ตัวเลข)
- two (ทู) - สอง (number / ตัวเลข)
- three (ธรี) - สาม (number / ตัวเลข)
- four (โฟร์) - สี่ (number / ตัวเลข)
- five (ไฟว์ฟ) - ห้า (number / ตัวเลข)
- six (ซิกซ์) - หก (number / ตัวเลข)
- seven (เซเว่น) - เจ็ด (number / ตัวเลข)
- eight (เอท) - แปด (number / ตัวเลข)
- nine (ไนน์) - เก้า (number / ตัวเลข)
- ten (เท็น) - สิบ (number / ตัวเลข)
- eleven (อิเลฟเว่น) - สิบเอ็ด (number / ตัวเลข)
- twelve (ทเวลฟ์) - สิบสอง (number / ตัวเลข)
- thirteen (เธอร์ทีน) - สิบสาม (number / ตัวเลข)
- fourteen (ฟอร์ทีน) - สิบสี่ (number / ตัวเลข)
- fifteen (ฟิฟทีน) - สิบห้า (number / ตัวเลข)
- sixteen (ซิกซ์ทีน) - สิบหก (number / ตัวเลข)
- seventeen (เซเว่นทีน) - สิบเจ็ด (number / ตัวเลข)
- eighteen (เอททีน) - สิบแปด (number / ตัวเลข)
- nineteen (ไนน์ทีน) - สิบเก้า (number / ตัวเลข)
- twenty (ทเวนตี้) - ยี่สิบ (number / ตัวเลข)
Numbers 21-100 (ตัวเลข 21-100):
- twenty-one (ทเวนตี้-วัน) - ยี่สิบเอ็ด (number / ตัวเลข)
- twenty-two (ทเวนตี้-ทู) - ยี่สิบสอง (number / ตัวเลข)
- thirty (เธอร์ตี้) - สามสิบ (number / ตัวเลข)
- forty (ฟอร์ตี้) - สี่สิบ (number / ตัวเลข)
- fifty (ฟิฟตี้) - ห้าสิบ (number / ตัวเลข)
- sixty (ซิกซ์ตี้) - หกสิบ (number / ตัวเลข)
- seventy (เซเว่นตี้) - เจ็ดสิบ (number / ตัวเลข)
- eighty (เอทตี้) - แปดสิบ (number / ตัวเลข)
- ninety (ไนน์ตี้) - เก้าสิบ (number / ตัวเลข)
- one hundred (วัน ฮันเดรด) - หนึ่งร้อย (number / ตัวเลข)
Days of the Week (วันในสัปดาห์):
- Monday (มันเดย์) - วันจันทร์ (noun / คำนาม)
- Tuesday (ทิวส์เดย์) - วันอังคาร (noun / คำนาม)
- Wednesday (เวนส์เดย์) - วันพุธ (noun / คำนาม)
- Thursday (เธิร์สเดย์) - วันพฤหัสบดี (noun / คำนาม)
- Friday (ฟรายเดย์) - วันศุกร์ (noun / คำนาม)
- Saturday (แซทเทอร์เดย์) - วันเสาร์ (noun / คำนาม)
- Sunday (ซันเดย์) - วันอาทิตย์ (noun / คำนาม)
- today (ทูเดย์) - วันนี้ (adverb/noun / คำวิเศษณ์/คำนาม)
- yesterday (เยสเทอร์เดย์) - เมื่อวาน (adverb/noun / คำวิเศษณ์/คำนาม)
- tomorrow (ทูมอโร่ว์) - พรุ่งนี้ (adverb/noun / คำวิเศษณ์/คำนาม)
- week (วีค) - สัปดาห์ (noun / คำนาม)
- weekend (วีคเอ็นด์) - สุดสัปดาห์ (noun / คำนาม)
Time Words (คำเกี่ยวกับเวลา):
- time (ไทม์) - เวลา (noun / คำนาม)
- hour (อาวร์) - ชั่วโมง (noun / คำนาม)
- minute (มินนิท) - นาที (noun / คำนาม)
- o'clock (อะคล็อก) - ...โมงตรง (adverb / คำวิเศษณ์)
Additional Vocabulary (คำศัพท์เพิ่มเติม):
- day (เดย์) - วัน (noun / คำนาม)
- year (เยียร์) - ปี (noun / คำนาม)
- old (โอลด์) - อายุ...ปี, เก่า (adjective / คำคุณศัพท์)
- birthday (เบิร์ธเดย์) - วันเกิด (noun / คำนาม)
- meeting (มีททิง) - การประชุม (noun / คำนาม)
- local person (โลคอล เพอร์เซิน) - คนท้องถิ่น (noun phrase / วลีคำนาม)
- let me see (เล็ท มี ซี) - ขอดูก่อนนะ (phrase / วลี)
- very much (เวรี่ มัช) - มาก (adverb phrase / วลีคำวิเศษณ์)
- go (โก) - ไป (verb / คำกริยา)
- work (เวิร์ค) - ทำงาน (verb / คำกริยา)
- class (คลาส) - ชั้นเรียน, คาบเรียน (noun / คำนาม)
- calendar (แคลินดาร์) - ปฏิทิน (noun / คำนาม)
- business (บิสซิเนส) - ธุรกิจ (noun / คำนาม)
- train (เทรน) - รถไฟ (noun / คำนาม)
- flight (ไฟลท์) - เที่ยวบิน (noun / คำนาม)
- military (มิลิทารี่) - การทหาร, กองทัพ (noun/adjective / คำนาม/คำคุณศัพท์)
- shop (ช็อป) - ร้านค้า (noun / คำนาม)
- closed (โคลสด์) - ปิด (adjective / คำคุณศัพท์)
- has (แฮส) - มี (verb / คำกริยา)
- free (ฟรี) - ว่าง, ฟรี (adjective / คำคุณศัพท์)
- party (พาร์ทที) - งานเลี้ยง (noun / คำนาม)
- ante meridiem (แอนเท เมอริเดียม) - ก่อนเที่ยงวัน (AM) (phrase / วลี)
- post meridiem (โพสต์ เมอริเดียม) - หลังเที่ยงวัน (PM) (phrase / วลี)
ไวยากรณ์ (Grammar)
การบอกและถามตัวเลข (Numbers)
- การอ่านเลข 21-99 ให้อ่านเลขหลักสิบก่อน ตามด้วยขีด (-) และเลขหลักหน่วย เช่น forty-seven (47), eighty-three (83)
- ใช้ตัวเลขในการบอกอายุ: I am thirty years old. (ฉันอายุ 30 ปี)
- ใช้ตัวเลขบอกจำนวน: A week has seven days. (หนึ่งสัปดาห์มีเจ็ดวัน)
การบอกและถามวัน (Days of the Week)
- วันในสัปดาห์ในภาษาอังกฤษจะเขียนขึ้นต้นด้วย ตัวพิมพ์ใหญ่เสมอ (Capital Letter) เช่น Monday, Saturday
- คำถาม:
- What day is it today? (วันนี้วันอะไร?) -> It's Monday. (วันนี้วันจันทร์)
- การใช้บุพบท "on": เราใช้ on นำหน้าวันในสัปดาห์เสมอ เมื่อต้องการบอกว่าเหตุการณ์เกิดขึ้นในวันนั้น
- I go to school on Monday. (ฉันไปโรงเรียนในวันจันทร์)
- We don't work on Sunday. (เราไม่ทำงานในวันอาทิตย์)
- See you on Friday! (เจอกันวันศุกร์นะ!)
- ข้อควรจำ: ภาษาไทยพูดว่า "ในวันจันทร์" หรือ "วันจันทร์" เฉยๆ ได้ แต่ภาษาอังกฤษส่วนใหญ่ต้องมี on นำหน้าวัน
การบอกและถามเวลา (Telling the Time - Basic)
- คำถาม:
- What time is it? (ตอนนี้กี่โมงแล้ว?)
- What's the time? (ตอนนี้กี่โมงแล้ว? - เหมือนกัน)
- การตอบ (สำหรับเวลาเต็มชั่วโมง): ใช้ It's + ตัวเลข + o'clock.
- It's seven o'clock. (ตอนนี้ 7 โมงตรง) (7:00)
- It's two o'clock. (ตอนนี้ ตี 2 / บ่าย 2 โมงตรง) (2:00)
- It's twelve o'clock. (ตอนนี้ เที่ยงตรง / เที่ยงคืน) (12:00)
- AM / PM: ภาษาอังกฤษนิยมใช้ระบบ 12 ชั่วโมง แล้วตามด้วย AM หรือ PM เพื่อบอกว่าเป็นช่วงเช้าหรือบ่าย/ค่ำ
- AM (ante meridiem): ใช้กับเวลาหลังเที่ยงคืนถึงก่อนเที่ยงวัน (00:01 - 11:59)
- PM (post meridiem): ใช้กับเวลาหลังเที่ยงวันถึงก่อนเที่ยงคืน (12:01 - 23:59)
- Example: 7:00 AM (เจ็ดโมงเช้า), 7:00 PM (หนึ่งทุ่ม)
- เราสามารถพูดว่า "It's seven AM." หรือ "It's seven PM." ได้เลย ไม่ต้องมี o'clock
(การบอกเวลาที่มีเศษนาที เช่น 7:15, 8:30 จะซับซ้อนกว่านี้เล็กน้อย เดี๋ยวเราจะเรียนในบทต่อๆ ไปครับ/ค่ะ ตอนนี้เอาแบบเต็มชั่วโมงให้คล่องก่อน)
การออกเสียง (Pronunciation Focus)
- Thirteen / Thirty: ระวังการออกเสียงและการเน้นเสียงให้ต่างกัน!
- Thirteen (13) - เน้นเสียงพยางค์หลัง (-teen)
- Thirty (30) - เน้นเสียงพยางค์แรก (Thir-)
- ฝึกพูด: thirteen / thirty, fourteen / forty, fifteen / fifty... ให้ชัดเจน
- Wednesday: คำนี้เขียน 9 ตัวอักษร แต่ออกเสียงจริงๆ แค่ 2 พยางค์: Wenz-day (เวนซ์-เดย์) อย่าออกเสียง /d/ ตรงกลางนะครับ!
- Thursday: เสียง Th /θ/ ต้องแลบลิ้นออกมานิดๆ ระหว่างฟัน แล้วเป่าลม เป็นเสียง /θɜːzdeɪ/ (เธิร์ซเดย์) พยายามอย่าออกเสียงเป็น "เทิสเดย์" หรือ "เตอสเดย์"
ตัวอย่างประโยคและบทสนทนา (Examples & Dialogues)
-
Example Sentences:
- A day has twenty-four hours. (หนึ่งวันมี 24 ชั่วโมง)
- The party is on Saturday this year. (งานเลี้ยงมีในวันเสาร์ปีนี้)
- What day is it tomorrow? It's Tuesday. (พรุ่งนี้วันอะไร? วันอังคาร)
- Excuse me, what time is it? It's ten o'clock AM. (ขอโทษครับ ตอนนี้กี่โมง? สิบโมงเช้าครับ)
- The meeting is at three PM on Friday. (การประชุมมีตอนบ่าย 3 โมง วันศุกร์)
-
Dialogue: Asking for the Time (บทสนทนา: ถามเวลา) (A: Tourist - นักท่องเที่ยว, B: Local Person - คนท้องถิ่น) A: Excuse me. What time is it, please? (ขอโทษนะครับ/คะ ตอนนี้กี่โมงแล้ว?) B: Let me see... It's eleven o'clock. (ขอดูก่อนนะ... ตอนนี้ 11 โมงตรงครับ/ค่ะ) A: Eleven AM or PM? (11 โมงเช้า หรือ 11 โมงกลางคืนครับ/คะ?) B: It's eleven AM. (11 โมงเช้าครับ/ค่ะ) A: Thank you very much. And what day is it today? (ขอบคุณมากครับ/ค่ะ แล้ววันนี้วันอะไรครับ/คะ?) B: Today is Wednesday. (วันนี้วันพุธครับ/ค่ะ) A: Wednesday... Okay, thank you! (วันพุธ... โอเค ขอบคุณครับ/ค่ะ!) B: You're welcome. Have a nice day! (ไม่เป็นไรครับ/ค่ะ ขอให้เป็นวันที่ดีนะครับ!)
บทอ่าน (Reading Passage)
English: Today is Monday. It is ten o'clock AM. I am at school. My English class is at eleven o'clock. The class is one hour. On Wednesday, my class is at two PM. Saturday and Sunday are the weekend. I am free on the weekend!
ภาษาไทย: วันนี้คือวันจันทร์ เป็นเวลา 10 โมงเช้า ฉันอยู่ที่โรงเรียน คาบเรียนภาษาอังกฤษของฉันมีตอน 11 โมง คาบเรียนนาน 1 ชั่วโมง ในวันพุธ คาบเรียนของฉันมีตอน บ่าย 2 โมง วันเสาร์และวันอาทิตย์คือสุดสัปดาห์ ฉันว่างในวันสุดสัปดาห์!
(คำแปล: บทอ่านนี้เล่าถึงตารางเวลาในแต่ละวันของสัปดาห์ มีการใช้ตัวเลขบอกเวลา ชั่วโมงเรียน และการใช้ "on" นำหน้าวันในสัปดาห์)
เกร็ดน่ารู้สำหรับคนไทย (Tips for Thais)
- จุดเริ่มต้นของสัปดาห์: ในหลายๆ ประเทศตะวันตก โดยเฉพาะในปฏิทิน มักจะถือว่า วันอาทิตย์ (Sunday) เป็นวันแรกของสัปดาห์ แต่ในทางธุรกิจและการทำงานทั่วไป มักจะเริ่มนับที่ วันจันทร์ (Monday) เป็นวันเริ่มต้นสัปดาห์เหมือนในประเทศไทย
- การบอกเวลา 24 ชั่วโมง: แม้ AM/PM จะนิยมใช้ในชีวิตประจำวัน แต่ในตารางเวลาที่เป็นทางการ เช่น ตารางรถไฟ ตารางบิน หรือในทางการทหาร มักใช้ระบบ 24 ชั่วโมง (เช่น 15:00 แทน 3 PM) ซึ่งคนไทยคุ้นเคยดีอยู่แล้ว
แบบฝึกหัด (Exercises)
** 1. เขียนตัวเลขเป็นคำภาษาอังกฤษ (Write the numbers in words) **
a. 8 -> _ b. 15 -> _ c. 23 -> _ d. 50 -> _ e. 76 -> _ f. 100 -> _
** 2. เรียงวันในสัปดาห์ (Order the days of the week) **
เรียงลำดับวันต่อไปนี้ให้ถูกต้อง เริ่มจาก Monday: * Friday * Tuesday * Sunday * Monday * Thursday * Saturday * Wednesday
- ___ (Monday)
-
-
-
-
-
-
** 3. ตอบคำถามเกี่ยวกับวัน (Answer questions about days) **
a. What day is it today? (ตอบตามวันจริงที่คุณทำแบบฝึกหัด) -> Today is _. b. What day is tomorrow? -> Tomorrow is _. c. What day was yesterday? -> Yesterday was _. d. What days are the weekend? -> The weekend is _ and ___.
** 4. เขียนเวลาเป็นภาษาอังกฤษ (Write the time in English) **
a. 5:00 -> It's ___. b. 9:00 -> It's ___. c. 1:00 -> It's ___. d. 12:00 -> It's ___.
** 5. เติมบุพบท "on" หรือไม่เติม (Fill in "on" where necessary) **
a. My class is _ Tuesday. b. See you _ tomorrow! (Tomorrow, yesterday, today ไม่ต้องใช้ on) c. We have a party _ Saturday. d. The shop is closed _ Sunday. e. What do you do _ the weekend?
(หมายเหตุ: การเติม -s ที่วัน เช่น Saturdays หมายถึง ทุกๆ วันเสาร์)
(เฉลยแบบฝึกหัดจะอยู่ท้ายเล่ม)
บทเรียนถัดไป (Next Unit)
ได้เวลามาเรียนรู้คำคุณศัพท์ (Adjectives) เพื่อใช้บรรยายลักษณะของคน สัตว์ สิ่งของ กันแล้วครับ/ค่ะ!