Unit 17: สุขภาพและการเจ็บป่วย (Health & Sickness)
เป้าหมายบทเรียน (Goals)
- เรียนรู้คำศัพท์เกี่ยวกับอาการเจ็บป่วยทั่วไป ส่วนต่างๆ ของร่างกาย และการดูแลสุขภาพ
- ใช้ Modal Verb should และ shouldn't เพื่อให้คำแนะนำเกี่ยวกับสุขภาพได้อย่างถูกต้อง
- เข้าใจความแตกต่างเล็กน้อยระหว่าง should (คำแนะนำ) กับ must/have to (ความจำเป็น) ในบริบทสุขภาพ
- ถามและตอบคำถามเกี่ยวกับอาการเจ็บป่วย และไปพบแพทย์
- เข้าใจบทสนทนาและบทอ่านเกี่ยวกับสุขภาพและการให้คำแนะนำ
คำศัพท์ (Vocabulary)
Common Illnesses & Symptoms (อาการเจ็บป่วยทั่วไป):
- a cold (อะ โคลด์) - หวัด (noun phrase / วลีคำนาม)
- a cough (อะ คอฟ) - อาการไอ (noun / คำนาม)
- a fever (อะ ฟีเวอร์) - ไข้, อาการตัวร้อน (noun / คำนาม)
- a headache (อะ เฮดเอค) - อาการปวดหัว (noun / คำนาม)
- a stomachache (อะ สตามัคเอค) - อาการปวดท้อง (noun / คำนาม)
- a toothache (อะ ทูธเอค) - อาการปวดฟัน (noun / คำนาม)
- a sore throat (อะ ซอร์ โธรท) - อาการเจ็บคอ (noun phrase / วลีคำนาม)
- the flu (เดอะ ฟลู) - ไข้หวัดใหญ่ (noun / คำนาม)
- diarrhea (ไดอะเรีย) - อาการท้องเสีย (noun / คำนาม)
- nausea (นอเซีย) - อาการคลื่นไส้ (noun / คำนาม)
- feel nauseous (ฟีล นอเชียส) - รู้สึกคลื่นไส้ (verb phrase / วลีกริยา)
- dizzy (ดิซซี่) - เวียนหัว, มึนงง (adjective / คำคุณศัพท์)
- sick / ill (ซิค / อิล) - ป่วย (adjective / คำคุณศัพท์)
- pain (เพน) - ความเจ็บปวด (noun / คำนาม)
- hurt (เฮิร์ท) - เจ็บ (verb / คำกริยา), เจ็บปวด (adjective / คำคุณศัพท์)
- ache (เอค) - ปวด (verb / คำกริยา), อาการปวด (noun / คำนาม)
Parts of the Body (ส่วนต่างๆ ของร่างกาย - ทบทวน):
- head (เฮด) - ศีรษะ (noun / คำนาม)
- eye(s) (อาย(ส์)) - ตา (noun / คำนาม)
- ear(s) (เอียร์(ส)) - หู (noun / คำนาม)
- nose (โนส) - จมูก (noun / คำนาม)
- mouth (เมาธ์) - ปาก (noun / คำนาม)
- throat (โธรท) - ลำคอ (noun / คำนาม)
- tooth / teeth (ทูธ / ทีธ) - ฟัน (ซี่เดียว / หลายซี่) (noun / คำนาม)
- stomach (สตามัค) - ท้อง, กระเพาะอาหาร (noun / คำนาม)
- back (แบ็ค) - หลัง (noun / คำนาม)
- arm(s) (อาร์ม(ส)) - แขน (noun / คำนาม)
- leg(s) (เลก(ส์)) - ขา (noun / คำนาม)
- hand(s) (แฮนด์(ส)) - มือ (noun / คำนาม)
- foot / feet (ฟุท / ฟีท) - เท้า (ข้างเดียว / หลายข้าง) (noun / คำนาม)
Health Actions & Treatment (การดูแลสุขภาพและการรักษา):
- see a doctor (ซี อะ ด็อกเตอร์) - ไปหาหมอ (verb phrase / วลีกริยา)
- go to the hospital (โก ทู เดอะ ฮอสพิทัล) - ไปโรงพยาบาล (verb phrase / วลีกริยา)
- take medicine / pills (เทค เมดิซิน / พิลส์) - กินยา / ยาเม็ด (verb phrase / วลีกริยา)
- rest / get some rest (เรสท์ / เกท ซัม เรสท์) - พักผ่อน (verb / คำกริยา) / (verb phrase / วลีกริยา)
- drink water / fluids (ดริงค์ วอเท่อ / ฟลูอิดส์) - ดื่มน้ำ / ของเหลว (verb phrase / วลีกริยา)
- stay home (สเตย์ โฮม) - อยู่บ้าน (verb phrase / วลีกริยา)
- feel better / get better (ฟีล เบทเท่อ / เกท เบทเท่อ) - รู้สึกดีขึ้น / อาการดีขึ้น (verb phrase / วลีกริยา)
- healthy (เฮลธิ) - สุขภาพดี (adjective / คำคุณศัพท์)
- unhealthy (อันเฮลธิ) - สุขภาพไม่ดี (adjective / คำคุณศัพท์)
- appointment (อะพอยท์เมินท์) - การนัดหมาย (noun / คำนาม)
- prescription (พรีสคริปชั่น) - ใบสั่งยา (noun / คำนาม)
คำศัพท์เพิ่มเติม (Additional Vocabulary):
- terrible (เทอริเบิล) - แย่มาก, เลวร้าย (adjective / คำคุณศัพท์)
- dentist (เดนทิสต์) - หมอฟัน (noun / คำนาม)
- plenty of (เพลนที่ ออฟ) - จำนวนมาก, เยอะแยะ (phrase / วลี)
- antibiotics (แอนทิไบโอติคส์) - ยาปฏิชีวนะ (noun / คำนาม - พหูพจน์)
- prescribe (พรีสไครบ์) - สั่งยา (verb / คำกริยา)
- necessary (เนเซสเซอรี่) - จำเป็น (adjective / คำคุณศัพท์)
- few (ฟิว) - สองสาม (determiner / คำนำหน้านาม)
- rainy season (เรนนี่ ซีซั่น) - ฤดูฝน (noun phrase / วลีคำนาม)
- germs (เจิร์มส) - เชื้อโรค (noun / คำนาม - พหูพจน์)
- spread (สเปรด) - แพร่กระจาย (verb / คำกริยา)
- strong (สตรอง) - แข็งแรง (adjective / คำคุณศัพท์)
- enough (อินัฟ) - เพียงพอ (determiner/adverb / คำนำหน้านาม/คำวิเศษณ์)
- adult(s) (อะดัลท(ส์)) - ผู้ใหญ่ (noun / คำนาม)
- avoid (อะวอยด์) - หลีกเลี่ยง (verb / คำกริยา)
- contact (คอนแทคท์) - การสัมผัส (noun / คำนาม)
- close (โคลส) - ใกล้ชิด (adjective / คำคุณศัพท์)
- ignore (อิกนอร์) - เพิกเฉย, ไม่สนใจ (verb / คำกริยา)
- difficulty (ดิฟฟิคัลที) - ความยากลำบาก (noun / คำนาม)
- breathe (บรีธ) - หายใจ (verb / คำกริยา)
- immediately (อิมมีเดียทลี) - ทันทีทันใด (adverb / คำวิเศษณ์)
- prevention (พรีเวนชั่น) - การป้องกัน (noun / คำนาม)
- cure (คิวร์) - การรักษาให้หาย (noun / คำนาม), รักษา (verb / คำกริยา)
- junk food (จังค์ ฟูด) - อาหารขยะ (noun phrase / วลีคำนาม)
- fast food (ฟาสท์ ฟูด) - อาหารจานด่วน (noun phrase / วลีคำนาม)
- healthier (เฮลธิเออร์) - สุขภาพดีกว่า (comparative adjective / คำคุณศัพท์เปรียบเทียบ)
- insurance (อินชัวรันซ์) - ประกัน (noun / คำนาม)
- surgery (เซอเจอรี) - การผ่าตัด (noun / คำนาม)
ไวยากรณ์ (Grammar)
Modal Verbs for Advice: Should / Shouldn't (การใช้ Should/Shouldn't ให้คำแนะนำ)
- เราใช้ should (ชูด) และ shouldn't (ชูดดึนท์ - รูปย่อของ should not) + กริยาช่อง 1 (V1) เพื่อ ให้คำแนะนำ (give advice) หรือบอกว่าอะไรเป็นความคิดที่ดี/ไม่ดีที่จะทำ
-
ใช้ได้กับ ทุกประธาน (I, You, He, She, It, We, They)
-
Should + V1: (ควรจะ...) - ใช้แนะนำสิ่งที่ควรทำ
- You look tired. You should get some rest. (คุณดูเหนื่อยนะ คุณควรจะพักผ่อนบ้าง)
- If you have a fever, you should drink lots of water. (ถ้าคุณมีไข้ คุณควรจะดื่มน้ำเยอะๆ)
- He should see a doctor about that cough. (เขาควรจะไปหาหมอเรื่องอาการไอนั่นนะ)
-
Shouldn't + V1: (ไม่ควรจะ...) - ใช้แนะนำสิ่งที่ไม่ควรทำ
- You shouldn't go to work if you are sick. (คุณไม่ควรไปทำงานถ้าคุณป่วย)
- She shouldn't eat too much sugary food. (หล่อนไม่ควรกินอาหารหวานมากเกินไป)
- They shouldn't stay up too late. (พวกเขาไม่ควรนอนดึกเกินไป)
-
คำถาม: ใช้ Should + ประธาน + V1 ? เพื่อขอคำแนะนำ
- I have a headache. Should I take some medicine? (ฉันปวดหัว ฉันควรกินยาไหม?)
- Should we call the doctor? (พวกเราควรโทรหาหมอไหม?)
ข้อควรจำเน้นๆ สำหรับคนไทย:
- Should = ควร: คำนี้แปลตรงตัวกับ "ควร" ในภาษาไทยได้ค่อนข้างดี ใช้ให้คำแนะนำทั่วไป ไม่ใช่คำสั่ง
- ตามด้วย V1 เสมอ: หลัง should/shouldn't ต้องเป็นกริยาช่อง 1 (รูปเดิม) เสมอ ห้ามเติม -s, -ed, -ing หรือ to เด็ดขาด! -> You should go. (ไม่ใช่ You should goes/went/going/to go)
Should vs Must / Have to (ความแตกต่างระหว่าง Should, Must, Have to ในบริบทสุขภาพ)
- Should/Shouldn't: เป็นแค่ คำแนะนำ (advice) ทำตามก็ได้ ไม่ทำก็ได้
- You should eat more vegetables. (คุณควรกินผักมากขึ้นนะ - แนะนำเฉยๆ)
- Must/Mustn't: เป็น คำสั่ง หรือข้อบังคับที่เข้มงวดมาก (strong obligation/prohibition) หรือความจำเป็นมากๆ
- You must take this medicine three times a day. (คุณต้องกินยานี้วันละ 3 ครั้ง - หมอสั่งเข้มงวด)
- You mustn't smoke in the hospital. (คุณห้ามสูบบุหรี่ในโรงพยาบาล - กฎข้อห้าม)
-
Have to/Don't have to: เป็น ความจำเป็นจากภายนอก/กฎเกณฑ์ (external obligation/necessity) หรือ ความไม่จำเป็น
- I have to wear glasses because I can't see well. (ฉันจำเป็นต้องใส่แว่นเพราะสายตาไม่ดี - ความจำเป็นทางร่างกาย)
- You don't have to pay if you have insurance. (คุณไม่จำเป็นต้องจ่ายเงินถ้าคุณมีประกัน - กฎ/เงื่อนไข)
-
สรุปง่ายๆ: ถ้าแค่แนะนำ ใช้ should. ถ้าจำเป็นต้องทำจริงๆ หรือเป็นกฎ/คำสั่ง ใช้ must/have to. ถ้าห้ามเด็ดขาด ใช้ mustn't. ถ้าไม่จำเป็นต้องทำ ใช้ don't have to.
Talking about Symptoms (การบอกอาการ)
- I have + a/an + [ชื่ออาการเอกพจน์]
- I have a headache.
- I have a fever.
- I have a sore throat.
- My [ส่วนของร่างกาย] + hurts / aches. (aches ใช้กับ back, tooth, stomach, head)
- My back hurts. (หลังฉันเจ็บ)
- My head aches. (หัวฉันปวด - เหมือน I have a headache)
- I feel + [คำคุณศัพท์บอกอาการ]
- I feel sick/ill. (ฉันรู้สึกป่วย)
- I feel dizzy. (ฉันรู้สึกเวียนหัว)
- I feel tired. (ฉันรู้สึกเหนื่อย)
การออกเสียง (Pronunciation Focus)
- Should /ʃʊd/: เสียง /ʊ/ เป็นเสียงสั้นๆ คล้าย "อุ" ไม่ใช่ "อู" (ชูด - ไม่ใช่ ชูดดด) และตัว L ไม่ต้องออกเสียง
- Shouldn't /ˈʃʊdnt/: ออกเสียงสั้นๆ ชูด-ดึนท
- Hurt /hɜːrt/: เสียงสระคือ /ɜː/ คล้าย "เออ" ยาวๆ (เฮิร์ท)
- Ache /eɪk/: ออกเสียงเหมือนคำว่า "เอ้ค" (เช่น headache = เฮด-เอ้ค)
ตัวอย่างประโยคและบทสนทนา (Examples & Dialogues)
-
Example Sentences:
- A: I have a terrible toothache. B: You should go to the dentist. (ฉันปวดฟันมาก / คุณควรไปหาหมอฟันนะ)
- He feels dizzy. He shouldn't drive. (เขารู้สึกเวียนหัว เขาไม่ควรขับรถ)
- Should I stay home from work today? I have a cold. (ฉันควรอยู่บ้านไม่ไปทำงานไหมวันนี้? ฉันเป็นหวัด)
- You don't have to take that medicine if you feel better. (คุณไม่จำเป็นต้องกินยานั่นถ้าคุณรู้สึกดีขึ้นแล้ว)
- Patients must not eat or drink before the surgery. (คนไข้ห้ามกินหรือดื่มก่อนการผ่าตัด)
-
Dialogue: At the Doctor's Office (บทสนทนา: ที่คลินิกหมอ) (Dr: Doctor - หมอ, Pt: Patient - คนไข้) Dr: Good morning. What seems to be the problem? (สวัสดีครับ/ค่ะ มีอาการอะไรครับ/คะ?) Pt: Good morning, doctor. I feel very tired, I have a sore throat, and a headache. (สวัสดีค่ะ/ครับ คุณหมอ ดิฉัน/ผมรู้สึกเหนื่อยมาก เจ็บคอ แล้วก็ปวดหัวด้วยค่ะ/ครับ) Dr: Okay. Do you have a fever? (โอเคครับ/ค่ะ มีไข้ไหมครับ/คะ?) Pt: I think so. I felt hot last night. (คิดว่ามีค่ะ/ครับ เมื่อคืนรู้สึกตัวร้อน) Dr: Let me check your temperature... Yes, you have a slight fever. It looks like you have the flu. (ขอวัดไข้หน่อยนะครับ/คะ... ใช่ครับ/ค่ะ คุณมีไข้เล็กน้อย ดูเหมือนว่าคุณจะเป็นไข้หวัดใหญ่นะครับ/คะ) Pt: Oh dear. What should I do? (แย่จังเลย ดิฉัน/ผมควรทำอย่างไรดีคะ/ครับ?) Dr: You should go home and get plenty of rest. You should also drink lots of fluids, like water or juice. I'll give you a prescription for some medicine for the fever and pain. (คุณควรกลับบ้านไปพักผ่อนเยอะๆ ครับ/ค่ะ คุณควรดื่มน้ำหรือของเหลวเยอะๆ ด้วย เช่น น้ำเปล่าหรือน้ำผลไม้ เดี๋ยวหมอจะให้ใบสั่งยาแก้ไข้แก้ปวดไป) Pt: Should I take antibiotics? (ดิฉัน/ผมควรกินยาปฏิชีวนะไหมคะ/ครับ?) Dr: No, antibiotics don't work for the flu because it's a virus. You shouldn't take them unless necessary. Just take the medicine I prescribe. And you should stay home from work for a few days. (ไม่ครับ/ค่ะ ยาปฏิชีวนะใช้ไม่ได้ผลกับไข้หวัดใหญ่เพราะมันเป็นไวรัส คุณไม่ควรกินยานั้นถ้าไม่จำเป็น แค่กินยาที่หมอสั่งก็พอ แล้วก็ควรอยู่บ้านพักจากงานสักสองสามวันนะครับ/คะ) Pt: Okay, doctor. Thank you very much. (โอเคค่ะ/ครับ คุณหมอ ขอบคุณมากค่ะ/ครับ)
บทอ่าน (Reading Passage)
English: Many people get sick during the rainy season. To stay healthy, doctors give some advice. First, you should wash your hands often, especially before eating. This helps stop germs from spreading. Second, you should eat healthy food, like fruits and vegetables, to keep your body strong. You should also drink enough water every day. Getting enough sleep is important too; adults should sleep for 7-8 hours per night. If you feel sick, you should rest at home and avoid close contact with others. You shouldn't ignore symptoms like a high fever or difficulty breathing – you should see a doctor immediately in those cases. Remember, prevention is better than cure! ภาษาไทย: หลายคนป่วยในช่วงฤดูฝน เพื่อรักษาสุขภาพให้แข็งแรง แพทย์ได้ให้คำแนะนำบางประการ อย่างแรก คุณควรล้างมือบ่อยๆ โดยเฉพาะก่อนรับประทานอาหาร ซึ่งจะช่วยหยุดการแพร่กระจายของเชื้อโรค อย่างที่สอง คุณควรกินอาหารที่ดีต่อสุขภาพ เช่น ผักและผลไม้ เพื่อให้ร่างกายแข็งแรง คุณควรดื่มน้ำให้เพียงพอทุกวันด้วย การนอนหลับให้เพียงพอก็สำคัญเช่นกัน ผู้ใหญ่ควรนอนหลับคืนละ 7-8 ชั่วโมง หากคุณรู้สึกป่วย คุณควรพักผ่อนที่บ้านและหลีกเลี่ยงการสัมผัสใกล้ชิดกับผู้อื่น คุณไม่ควรเพิกเฉยต่ออาการต่างๆ เช่น ไข้สูง หรือหายใจลำบาก – คุณควรไปพบแพทย์ทันทีในกรณีเหล่านั้น จำไว้ว่า การป้องกันดีกว่าการรักษา!
(คำแปล: บทอ่านนี้ให้คำแนะนำด้านสุขภาพในช่วงฤดูฝน โดยใช้ should และ shouldn't ตลอดทั้งบทเพื่อบอกสิ่งที่ควรทำและไม่ควรทำ)
เกร็ดน่ารู้สำหรับคนไทย (Tips for Thais)
- การไปหาหมอ (Seeing a Doctor): ในหลายประเทศตะวันตก การจะไปพบแพทย์เฉพาะทาง (specialist) มักจะต้องผ่านการส่งตัวจากแพทย์ทั่วไป (General Practitioner หรือ GP) ก่อน ไม่สามารถเดินเข้าไปหาแพทย์เฉพาะทางได้เลยเหมือนในบางคลินิกของไทย และการนัดหมาย (appointment) ล่วงหน้าเป็นสิ่งสำคัญมาก
- ยาปฏิชีวนะ (Antibiotics): แพทย์ในหลายประเทศจะสั่งยาปฏิชีวนะเฉพาะเมื่อจำเป็นจริงๆ สำหรับการติดเชื้อแบคทีเรียเท่านั้น จะไม่สั่งให้สำหรับโรคที่เกิดจากไวรัส เช่น หวัด หรือไข้หวัดใหญ่ทั่วไป เพราะยาปฏิชีวนะไม่สามารถฆ่าเชื้อไวรัสได้ และการใช้ยาปฏิชีวนะพร่ำเพรื่ออาจทำให้เกิดเชื้อดื้อยาได้
แบบฝึกหัด (Exercises)
1. จับคู่ส่วนของร่างกายกับอาการปวด (Match body part with ache):
1. Head a. ache
2. Tooth b. ache
3. Stomach c. ache
4. Back d. ache
2. เลือก Should หรือ Shouldn't:
a. You have a test tomorrow. You ________ go to bed late tonight.
b. It's raining outside. You ________ take an umbrella.
c. If you want to be healthy, you ________ eat junk food every day.
d. My advice is: you ________ talk to your teacher about the problem.
e. He has a bad cough. He ________ smoke.
3. เขียนคำแนะนำโดยใช้ Should/Shouldn't:
a. Your friend feels very tired. -> You ____________________________ (get some rest).
b. Your brother eats too much fast food. -> He ____________________________ (eat healthier food).
c. Your sister has a stomachache. -> She ____________________________ (eat spicy food now).
d. You don't understand the homework. -> I ____________________________ (ask the teacher for help).
4. เลือกคำตอบที่เหมาะสม (Should / Must / Have to / Don't have to):
a. Doctor's advice: "You ________ drink more water." (แค่คำแนะนำ)
b. Hospital rule: "Visitors ________ turn off their mobile phones." (กฎข้อห้าม)
c. My eyes are bad. I ________ wear glasses to read. (ความจำเป็นส่วนตัว)
d. This medicine is free. You ________ pay for it. (ไม่จำเป็นต้องทำ)
5. แปลเป็นภาษาอังกฤษ (Translate into English):
a. ฉันควรไปหาหมอไหม? -> ____________________________?
b. คุณไม่ควรดื่มกาแฟตอนกลางคืน -> ____________________________
c. พวกเขาควรพักผ่อนเยอะๆ -> ____________________________
d. ฉันปวดหัวและรู้สึกคลื่นไส้ -> ____________________________
(เฉลยแบบฝึกหัดจะอยู่ท้ายเล่ม)
บทเรียนถัดไป (Next Unit)
เราจะมาเรียนรู้ Modal Verbs เพิ่มเติม คือ can/could/must/have to เพื่อพูดถึงความสามารถ การขอร้อง และความจำเป็นกันครับ/ค่ะ!