Unit 15: การเดินทางและการคมนาคม (Travel & Transportation)
เป้าหมายบทเรียน (Goals)
- เรียนรู้คำศัพท์เกี่ยวกับยานพาหนะ สถานที่เดินทาง เอกสาร และกิจกรรมที่เกี่ยวข้องกับการเดินทาง
- ใช้ Future Tenses (will, be going to, Present Continuous) และ Modals (can, must, should) ในบริบทการวางแผนและเดินทาง
- ถามทางและบอกทางโดยใช้สำนวนและบุพบทที่ถูกต้อง
- เข้าใจบทสนทนาพื้นฐานที่เกี่ยวกับการเดินทาง เช่น การจองตั๋ว การเช็คอิน
คำศัพท์ (Vocabulary)
Means of Transport (ยานพาหนะ):
- car (คาร์) - รถยนต์ (noun / คำนาม)
- bus (บัส) - รถประจำทาง, รถบัส (noun / คำนาม)
- train (เทรน) - รถไฟ (noun / คำนาม)
- plane / airplane (เพลน / แอร์เพลน) - เครื่องบิน (noun / คำนาม)
- boat (โบท) - เรือ (ทั่วไป) (noun / คำนาม)
- ship (ชิพ) - เรือ (ขนาดใหญ่) (noun / คำนาม)
- bicycle / bike (ไบซิเคิล / ไบค์) - จักรยาน (noun / คำนาม)
- motorcycle / motorbike (มอเตอร์ไซเคิล / มอเตอร์ไบค์) - รถจักรยานยนต์ (noun / คำนาม)
- taxi (แท็กซี่) - แท็กซี่ (noun / คำนาม)
- subway / metro / underground (ซับเวย์ / เมโทร / อันเดอร์กราวด์) - รถไฟใต้ดิน (noun / คำนาม)
- Skytrain / BTS (สกายเทรน / บีทีเอส) - รถไฟฟ้า (ลอยฟ้า) (noun / คำนาม)
Travel Locations (สถานที่เดินทาง):
- airport (แอร์พอร์ท) - สนามบิน (noun / คำนาม)
- train station (เทรน สเตชั่น) - สถานีรถไฟ (noun phrase / วลีคำนาม)
- bus station / bus stop (บัส สเตชั่น / บัส สต็อป) - สถานีขนส่ง / ป้ายรถเมล์ (noun phrase / วลีคำนาม)
- hotel (โฮเทล) - โรงแรม (noun / คำนาม)
- hostel (ฮอสเทล) - โฮสเทล (noun / คำนาม)
- guesthouse (เกสต์เฮาส์) - เกสต์เฮาส์, บ้านพัก (noun / คำนาม)
- platform (แพลทฟอร์ม) - ชานชาลา (noun / คำนาม)
- gate (เกท) - ประตูขึ้นเครื่อง (noun / คำนาม)
- harbour / port (ฮาร์เบอร์ / พอร์ท) - ท่าเรือ (noun / คำนาม)
- immigration (อิมมิเกรชั่น) - ด่านตรวจคนเข้าเมือง (noun / คำนาม)
Travel Documents & Items (เอกสารและสิ่งของเดินทาง):
- passport (พาสพอร์ต) - หนังสือเดินทาง (noun / คำนาม)
- visa (วีซ่า) - วีซ่า (noun / คำนาม)
- ticket (ทิคเก็ต) - ตั๋ว (noun / คำนาม)
- boarding pass (บอร์ดดิง พาส) - บัตรขึ้นเครื่อง (noun phrase / วลีคำนาม)
- luggage / baggage (ลักเกจ / แบกเกจ) - สัมภาระ (noun / คำนาม)
- suitcase / bag (สูทเคส / แบก) - กระเป๋าเดินทาง / กระเป๋า (noun / คำนาม)
- map (แมพ) - แผนที่ (noun / คำนาม)
- camera (คาเมร่า) - กล้องถ่ายรูป (noun / คำนาม)
- seat (ซีท) - ที่นั่ง (noun / คำนาม)
Travel Actions (กริยาเกี่ยวกับการเดินทาง):
- travel (แทรเวิล) - เดินทาง, ท่องเที่ยว (verb / คำกริยา)
- fly (ฟลาย) - บิน (โดยเครื่องบิน) (verb / คำกริยา)
- drive (ไดรฟ์) - ขับรถ (verb / คำกริยา)
- ride (ไรด์) - ขี่, โดยสาร (verb / คำกริยา)
- take (เทค) - ขึ้น/โดยสาร (ยานพาหนะ) (verb / คำกริยา)
- book / reserve (บุค / รีเสิร์ฟ) - จอง (verb / คำกริยา)
- check in (เช็ค อิน) - ลงทะเบียนเข้า (phrasal verb / กริยาวลี)
- check out (เช็ค เอาท์) - ลงทะเบียนออก (phrasal verb / กริยาวลี)
- pack (แพค) - จัดกระเป๋า (verb / คำกริยา)
- unpack (อันแพค) - เอาของออกจากกระเป๋า (verb / คำกริยา)
- ask for directions (อาสค์ ฟอร์ ไดเรคชั่นส์) - ถามทาง (verb phrase / วลีกริยา)
- give directions (กิฟ ไดเรคชั่นส์) - บอกทาง (verb phrase / วลีกริยา)
- remember (รีเมมเบอร์) - จำได้ (verb / คำกริยา)
- look forward to (ลุค ฟอร์เวิร์ด ทู) - ตั้งตารอ (phrasal verb / กริยาวลี)
Directional Phrases (วลีบอกทิศทาง):
- turn left / turn right (เทิร์น เลฟท์ / เทิร์น ไรท์) - เลี้ยวซ้าย / เลี้ยวขวา (verb phrase / วลีกริยา)
- go straight (on / ahead) (โก สเตรท (ออน / อะเฮด)) - ตรงไป (verb phrase / วลีกริยา)
- go past... (โก พาสท์...) - เดิน/ขับ ผ่าน... (verb phrase / วลีกริยา)
- cross the street/road (ครอส เดอะ สตรีท/โรด) - ข้ามถนน (verb phrase / วลีกริยา)
- it's on the left / right (อิทส์ ออน เดอะ เลฟท์ / ไรท์) - มันอยู่ทางซ้าย / ทางขวา (phrase / วลี)
- it's next to... (อิทส์ เน็กซท์ ทู...) - มันอยู่ติดกับ... (phrase / วลี)
- it's opposite... (อิทส์ ออพโพสิท...) - มันอยู่ตรงข้ามกับ... (phrase / วลี)
- it's near... (อิทส์ เนียร์...) - มันอยู่ใกล้กับ... (phrase / วลี)
- it's far from... (อิทส์ ฟาร์ ฟรอม...) - มันอยู่ไกลจาก... (phrase / วลี)
- it's at the corner (of...) (อิทส์ แอท เดอะ คอร์เนอร์ (ออฟ...)) - มันอยู่ที่หัวมุม (ของ...) (phrase / วลี)
- turning (เทิร์นนิ่ง) - ทางเลี้ยว, การเลี้ยว (noun / คำนาม)
- block(s) (บล็อค(ส์)) - ช่วงตึก (noun / คำนาม)
- traffic lights (แทรฟฟิค ไลท์ส) - สัญญาณไฟจราจร (noun phrase / วลีคำนาม)
- edge (เอจ) - ขอบ, ริม (noun / คำนาม)
Other Useful Words & Phrases (คำและวลีอื่น ๆ ที่มีประโยชน์):
- National Museum (แนชั่นแนล มิวเซียม) - พิพิธภัณฑสถานแห่งชาติ (proper noun phrase / วลีวิสามานยนาม)
- Main Street (เมน สตรีท) - ถนนสายหลัก (proper noun phrase / วลีวิสามานยนาม)
- Hua Hin (หัวหิน) - หัวหิน (proper noun / วิสามานยนาม)
- Vietnam (เวียดนาม) - เวียดนาม (proper noun / วิสามานยนาม)
- Hanoi (ฮานอย) - ฮานอย (proper noun / วิสามานยนาม)
- Ha Long Bay (อ่าวฮาลอง) - อ่าวฮาลอง (proper noun / วิสามานยนาม)
- if possible (อิฟ พอสซิเบิล) - ถ้าเป็นไปได้ (phrase / วลี)
- second-class (เซเคินด์-คลาส) - ชั้นสอง (adjective / คำคุณศัพท์)
- fantastic (แฟนแทสทิค) - ยอดเยี่ยม, วิเศษ (adjective / คำคุณศัพท์)
- dangerous (เดนเจอเริส) - อันตราย (adjective / คำคุณศัพท์)
ไวยากรณ์ (Grammar)
การใช้ Future Tenses สำหรับแผนการเดินทาง (Using Future Tenses for Travel Plans) (ทบทวน Unit 14)
- Be going to: ใช้กับแผนการเดินทางที่ตัดสินใจไว้แล้ว
- We are going to travel to Europe next summer. (เราจะไปเที่ยวยุโรปฤดูร้อนหน้า - วางแผนแล้ว)
- I am going to book the hotel tomorrow. (ฉันจะจองโรงแรมพรุ่งนี้ - ตั้งใจไว้)
- Present Continuous: ใช้กับกำหนดการเดินทางที่แน่นอน (มักระบุเวลา/วัน)
- Our plane is leaving at 8 AM. (เครื่องบินของเราจะออกตอน 8 โมงเช้า - ตามตาราง)
- I am meeting my friend at the airport. (ฉันจะไปเจอเพื่อนที่สนามบิน - นัดไว้แล้ว)
- Will: ใช้กับการตัดสินใจเรื่องเดินทาง ณ ตอนพูด หรือการคาดการณ์ทั่วไป
- Maybe I'll take the train instead of the bus. (บางทีฉันอาจจะนั่งรถไฟแทนรถบัสก็ได้ - เพิ่งคิด)
- The trip will probably be expensive. (ทริปนี้น่าจะแพงนะ - คาดการณ์)
การถามทาง (Asking for Directions)
- Excuse me, can/could you tell me how to get to [the train station]? (ขอโทษครับ/ค่ะ ช่วยบอกทางไป [สถานีรถไฟ] หน่อยได้ไหม?) - Could สุภาพกว่า
- Excuse me, where is [the nearest hotel]? (ขอโทษครับ/ค่ะ [โรงแรมที่ใกล้ที่สุด] อยู่ที่ไหน?)
- Excuse me, is this the way to [the museum]? (ขอโทษครับ/ค่ะ นี่ใช่ทางไป [พิพิธภัณฑ์] หรือเปล่า?)
- Excuse me, how do I get to [Main Street]? (ขอโทษครับ/ค่ะ ฉันจะไป [ถนนเมน] ได้อย่างไร?)
การบอกทาง (Giving Directions)
มักใช้ Imperative (ประโยคคำสั่ง) และบุพบท/วลีบอกทิศทาง
- Go straight on for about 5 minutes / two blocks. (ตรงไปประมาณ 5 นาที / สองช่วงตึก)
- Turn left/right at the corner / at the traffic lights. (เลี้ยวซ้าย/ขวาตรงหัวมุม / ตรงสัญญาณไฟจราจร)
- Take the first/second turning on the left/right. (เข้าซอยแรก/ซอยที่สองทางซ้าย/ขวา)
- Go past the post office. (เดิน/ขับ ผ่านที่ทำการไปรษณีย์ไป)
- Cross the road. (ข้ามถนน)
- It's on your left/right, next to the bank / opposite the park. (มันอยู่ทางซ้าย/ขวาของคุณ ติดกับธนาคาร / ตรงข้ามสวนสาธารณะ)
การใช้กริยาช่วยในการเดินทาง (Modals for Travel)
- Must / Have to: ความจำเป็น / ข้อบังคับ
- You must have a passport to travel internationally. (คุณจำเป็นต้องมีพาสปอร์ตเพื่อเดินทางต่างประเทศ)
- We have to check in two hours before the flight. (เราต้องเช็คอิน 2 ชั่วโมงก่อนเครื่องออก)
- Mustn't / Don't have to: การห้าม / ความไม่จำเป็น
- You mustn't smoke on the plane. (คุณห้ามสูบบุหรี่บนเครื่องบิน)
- You don't have to pay for water on the flight. (คุณไม่จำเป็นต้องจ่ายค่าน้ำบนเครื่องบิน)
- Can / Can't: ความสามารถ / การอนุญาต / การไม่อนุญาต
- You can buy tickets online. (คุณสามารถซื้อตั๋วออนไลน์ได้)
- You can't park your car here. (คุณจอดรถตรงนี้ไม่ได้)
- Should / Shouldn't: คำแนะนำ
- You should book your flight early. (คุณควรจองเที่ยวบินแต่เนิ่นๆ)
- You shouldn't carry too much cash. (คุณไม่ควรพกเงินสดมากเกินไป)
การออกเสียง (Pronunciation Focus)
- /tr/ sound: ในคำว่า train, travel, trip พยายามออกเสียง /t/ และ /r/ ควบกันให้ชัดเจน (ไม่ใช่ "เทน" หรือ "ทาเวล")
- Intonation in Asking Directions: มักใช้เสียงสูงขึ้นเล็กน้อยท้ายประโยคคำถามเพื่อแสดงความสุภาพ
- Could you tell me how to get to the station? ↗
- Stress on Compound Nouns: ในคำประสม เช่น train station, bus stop, boarding pass มักจะเน้นเสียงที่คำแรกมากกว่า
- TRAIN station, BUS stop, BOARDING pass
ตัวอย่างประโยคและบทสนทนา (Examples & Dialogues)
-
Example Sentences:
- We are going to take the train to Chiang Mai next week. (เราจะนั่งรถไฟไปเชียงใหม่สัปดาห์หน้า)
- You must show your boarding pass at the gate. (คุณต้องแสดงบัตรขึ้นเครื่องที่ประตู)
- Excuse me, where is the nearest bus stop? (ขอโทษครับ ป้ายรถเมล์ที่ใกล้ที่สุดอยู่ไหน?)
- Go straight ahead and turn right at the traffic lights. (ตรงไปแล้วเลี้ยวขวาตรงไฟแดง)
- I'll book the hotel online tonight. (ฉันจะจองโรงแรมออนไลน์คืนนี้ - เพิ่งตัดสินใจ)
- You should arrive at the airport early. (คุณควรไปถึงสนามบินแต่เนิ่นๆ)
-
Dialogue 1: Asking for Directions (บทสนทนา 1: ถามทาง) (A: Tourist, B: Local) A: Excuse me, could you tell me how to get to the National Museum? (ขอโทษครับ/ค่ะ ช่วยบอกทางไปพิพิธภัณฑสถานแห่งชาติหน่อยได้ไหม?) B: Sure. Go straight down this road. Go past the big bank on your left. Then, take the second turning on your right. The museum is on your left, opposite a small park. (ได้ครับ/ค่ะ ตรงไปตามถนนเส้นนี้เลย ผ่านธนาคารใหญ่ทางซ้ายมือไป จากนั้นเลี้ยวขวาที่แยกที่สอง พิพิธภัณฑ์จะอยู่ทางซ้ายมือของคุณ ตรงข้ามกับสวนสาธารณะเล็กๆ) A: Go straight, past the bank, second right, it's on the left. Got it. Thank you so much! (ตรงไป ผ่านธนาคาร เลี้ยวขวาที่สอง อยู่ทางซ้าย เข้าใจแล้วครับ/ค่ะ ขอบคุณมากครับ/ค่ะ!) B: You're welcome.
-
Dialogue 2: Booking a Train Ticket (บทสนทนา 2: จองตั๋วรถไฟ) (A: Customer, B: Ticket Agent) A: Hello. I'd like to book a ticket to Hua Hin, please. (สวัสดีครับ/ค่ะ อยากจะจองตั๋วไปหัวหินครับ/ค่ะ) B: Okay. For which day and time? (โอเคครับ/ค่ะ สำหรับวันและเวลาไหนครับ/คะ?) A: For next Saturday morning. Around 9 AM if possible. (สำหรับเช้าวันเสาร์หน้าครับ/ค่ะ ประมาณ 9 โมงเช้าถ้าเป็นไปได้) B: Let me check... Yes, there's a train at 9:15 AM. One-way or return? (ขอเช็คดูก่อนนะครับ/คะ... มีครับ มีรถไฟตอน 9:15 น. ครับ/ค่ะ เที่ยวเดียวหรือไป-กลับครับ/คะ?) A: One-way, please. How much is it? (เที่ยวเดียวครับ/ค่ะ ราคาเท่าไหร่ครับ/คะ?) B: That will be 450 baht for a second-class seat. (ราคานั้นจะอยู่ที่ 450 บาทสำหรับที่นั่งชั้นสองครับ/ค่ะ) A: Okay, I'll take it. Can I pay by credit card? (โอเคครับ/ค่ะ เอาตั๋วนี้ครับ/ค่ะ จ่ายด้วยบัตรเครดิตได้ไหมครับ/คะ?) B: Yes, of course. (ได้แน่นอนครับ/ค่ะ)
บทอ่าน (Reading Passage)
English: My next holiday is going to be exciting! I am flying to Vietnam next month with two friends. We booked our flights last week. We are going to stay in Hanoi for three days, then we will take a bus to Ha Long Bay. We haven't booked our hotels yet, but we should do it soon. We have to get visas before we go. I am really looking forward to trying Vietnamese food. I think it will be a fantastic trip! I must remember to pack my camera. ภาษาไทย: วันหยุดครั้งหน้าของฉันจะต้องน่าตื่นเต้นแน่ๆ! ฉันจะบินไปเวียดนามเดือนหน้ากับเพื่อนสองคน พวกเราจองเที่ยวบินไปเมื่อสัปดาห์ที่แล้ว พวกเราจะพักอยู่ที่ฮานอย 3 วัน จากนั้นพวกเราจะนั่งรถบัสไปอ่าวฮาลอง พวกเรายังไม่ได้จองโรงแรมเลย แต่เราควรจะจองเร็วๆ นี้ พวกเราต้องทำวีซ่าก่อนไป ฉันตั้งหน้าตั้งตารอคอยที่จะได้ลองอาหารเวียดนามจริงๆ ฉันคิดว่ามันจะเป็นทริปที่ยอดเยี่ยม! ฉันต้องไม่ลืมที่จะจัดกล้องถ่ายรูปใส่กระเป๋าไปด้วย
(คำแปล: บทอ่านนี้เล่าแผนการเดินทางไปเวียดนาม ใช้ be going to/Present Continuous สำหรับแผนที่วางไว้ (flying, going to stay), will สำหรับการตัดสินใจ/คาดการณ์ (will take, will be), must/have to/should สำหรับความจำเป็น/คำแนะนำ และ Haven't booked (Present Perfect) สำหรับสิ่งที่ยังไม่ได้ทำ)
เกร็ดน่ารู้สำหรับคนไทย (Tips for Thais)
- ระบบขนส่งสาธารณะ (Public Transport): การใช้รถไฟใต้ดิน (Subway/Metro/Underground) หรือรถบัสในต่างประเทศอาจแตกต่างจากไทย ควรศึกษาเส้นทาง แผนที่ และวิธีการซื้อตั๋ว/บัตรโดยสารล่วงหน้า (หลายเมืองมีบัตรเติมเงินสำหรับนักท่องเที่ยว) การยืนชิดขวาหรือซ้ายบนบันไดเลื่อน หรือการให้คนข้างในออกก่อนเข้าขบวนรถ ก็เป็นมารยาทสากลที่ควรรู้
- การเรียก Taxi: ในบางประเทศ การเรียกแท็กซี่ตามท้องถนนอาจทำได้ยาก หรือไม่ปลอดภัย ควรเรียกผ่านแอปพลิเคชัน หรือให้โรงแรม/ร้านอาหารช่วยเรียกให้ หรือไปรอที่จุดจอดแท็กซี่ (Taxi Stand) ที่กำหนด
แบบฝึกหัด (Exercises)
1. จับคู่ยานพาหนะกับสถานที่ (Match transport with location):
1. Plane a. Train station
2. Train b. Bus stop
3. Bus c. Airport
4. Ship d. Harbour / Port
2. เลือกคำตอบที่ถูกต้อง (Choose the correct word):
a. You need a _____ to travel to another country. (ticket / passport)
b. Before you get on the plane, you need a _____. (boarding pass / visa)
c. Your bags and suitcases are your _____. (luggage / receipt)
d. I bought a _____ ticket because I'm coming back next week. (one-way / return)
3. เติมคำในบทสนทนาถามทาง (Complete the direction dialogue):
A: Excuse me, _____ is the post office?
B: Go _____ on and turn _____ at the second corner. It's _____ your right, _____ to the bank.
A: Thank you!
4. เลือก Modal Verb ที่เหมาะสม (Choose the correct modal verb):
a. You _____ have a ticket to get on the train. (must / should)
b. You _____ stand near the edge of the platform. It's dangerous. (shouldn't / don't have to)
c. We _____ check out of the hotel before 12 noon. (have to / can)
d. _____ I park my bicycle here? (Must / Can)
5. เขียนประโยคเกี่ยวกับแผนการเดินทางของคุณ (สมมติ) (Write sentences about your imaginary travel plans):
เขียน 3 ประโยคเกี่ยวกับทริปที่คุณวางแผนจะไป (หรืออยากไป) โดยใช้ Future Tense (will / be going to / Present Continuous) และคำศัพท์เกี่ยวกับการเดินทาง
* Example: *I am going to visit Korea next year. I will fly from Bangkok. I am meeting my friend at the airport.*
1. _________________________________________________________________________
2. _________________________________________________________________________
3. _________________________________________________________________________
(เฉลยแบบฝึกหัดจะอยู่ท้ายเล่ม)
บทเรียนถัดไป (Next Unit)
เราจะมาเรียน Tense ที่สำคัญอีกตัวหนึ่ง คือ Present Perfect ซึ่งใช้พูดถึงประสบการณ์ หรือเหตุการณ์ในอดีตที่ส่งผลถึงปัจจุบันครับ/ค่ะ!